ค่าใช้จ่ายเนอสซิ่งโฮม: ปัจจัยที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
5 ปัจจัยสำคัญที่อาจจะส่งผลต่อค่าใช้จ่ายของเนอสซิ่งโฮม

ในปัจจุบันที่ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ตามข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ การดูแลผู้สูงอายุจึงกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ครอบครัวไทยต้องเผชิญ เนอสซิ่งโฮม (Nursing Home) หรือ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแบบพยาบาล ซึ่งเป็นสถานที่ให้บริการดูแลสุขภาพ การพยาบาล และ กิจกรรมประจำวันสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เช่นกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และ พัทยา ที่มีครอบครัวทำงาน และ ไม่มีเวลาดูแลพ่อแม่ อย่างไรก็ตาม การเลือกเนอสซิ่งโฮมไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะต้องเกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายที่สูง และ ต้องคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนในเนอสซิ่งโฮมในไทยอยู่ระหว่าง 20,000-100,000 บาท ขึ้นอยู่กับระดับบริการ และ สถานที่ ดังนั้นบทความนี้เราจะพาไปสำรวจปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายเหล่านี้ และ ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้คุณวางแผนได้อย่างรอบคอบ และ คุ้มค่าที่สุด
ที่มาของเนอสซิ่งโฮม และ ความสำคัญในสังคมไทย
เนอสซิ่งโฮมมีต้นกำเนิดจากตะวันตกในช่วงศตวรรษที่ 19 เพื่อดูแลผู้สูงอายุที่ต้องการการพยาบาล แต่ในไทยเริ่มได้รับความนิยมในทศวรรษ 2010s จากการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่ครอบครัวเดี่ยวได้เพิ่มขึ้น และ ผู้สูงอายุมีอายุยืนยาวขึ้น ตามรายงานจากกรมกิจการผู้สูงอายุ (กผส.) ในปี 2025 ประเทศไทยได้มีเนอสซิ่งโฮมที่จดทะเบียนกว่า 500 แห่ง โดยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ความสำคัญ คือ ช่วยลดภาระครอบครัว ให้บริการพยาบาล 24 ชั่วโมง กิจกรรมสันทนาการ และ อาหารโภชนาการที่เหมาะสม ซึ่งช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคเรื้อรังในผู้สูงอายุลง 15-20% ตามการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล
แต่อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายของเนอสซิ่งโฮมเป็นอุปสรรคหลักๆ โดยเฉพาะครอบครัวคนไทยเฉลี่ยต้องจ่าย 30,000-50,000 บาท ต่อ เดือนสำหรับบริการพื้นฐาน ซึ่งสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำหลายเท่า ทำให้หลายครอบครัวต้องวางแผนล่วงหน้า เช่น ซื้อประกันสุขภาพ หรือ ออมเงินเพื่อวัยเกษียณ การเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่ผิดพลาด และ อาจนำไปสู่ปัญหาทางการเงินในระยะยาวได้นั้นเอง
แนะนำ 5 ปัจจัยต่างๆที่อาจมีผลต่อค่าใช้จ่ายของเนอสซิ่งโฮม
- สถานที่ตั้ง และ สิ่งอำนวยความสะดวก
สถานที่ตั้งเป็นปัจจัยหลักของเนอสซิ่งโฮมที่จะส่งผลต่อค่าใช้จ่าย โดยเนอสซิ่งโฮมในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ หรือ ภูเก็ตราคาจะสูงกว่าในต่างจังหวัด เพราะค่าที่ดิน และ ค่าครองชีพสูง อีกทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกเช่น สวนหย่อม สระว่ายน้ำ หรือ ห้องกายภาพบำบัดจะเพิ่มค่าใช้จ่ายอีกประมาณ 5,000-15,000 บาท/เดือน เพราะต้องบำรุงรักษา และ ต้องจ้างพนักงานเพิ่ม
ก่อนตัดสินใจ ควรพิจารณาว่าผู้สูงอายุต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง เช่น หากมีปัญหาสุขภาพ ควรเลือกสถานที่ใกล้โรงพยาบาลเพื่อลดค่าเดินทาง และ ลดความเสี่ยง การเลือกสถานที่ที่เหมาะสมจะช่วยให้ค่าใช้จ่ายคุ้มค่า และ ผู้สูงอายุมีความสุขมากขึ้น - ระดับบริการ และ ความต้องการทางการแพทย์
ระดับบริการเป็นปัจจัยที่ทำให้ค่าใช้จ่ายแตกต่างกันมาก โดยหากเป็นการบริการพื้นฐานอย่างอาหาร และ ที่พักจะมีราคาถูกกว่า แต่หากต้องการการพยาบาลพิเศษ เช่น การให้ยา ตรวจสุขภาพประจำวัน หรือ กายภาพบำบัด ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้น ซึ่งสำหรับผู้สูงอายุที่ป่วยเรื้อรังอย่างอัลไซเมอร์ หรือ เบาหวาน อาจต้องจ้างพยาบาลส่วนตัวเพิ่ม อีกด้วย
ก่อนตัดสินใจ ควรประเมินสุขภาพผู้สูงอายุโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกระดับบริการที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการจ่ายแพงเกินจำเป็น บางสถานที่เนอสซิ่งโฮมจะเสนอแพ็กเกจตามระดับสุขภาพ เช่น แพ็กเกจสำหรับผู้สูงอายุที่แข็งแรง และ สำหรับผู้ป่วยติดเตียง เป็นต้น - ประเภทห้อง และ จำนวนผู้อยู่อาศัย
ประเภทห้องจะส่งผลต่อค่าใช้จ่าย โดยห้องรวม (2-4 คน) ราคาจะถูกกว่า ในขณะที่ห้องเดี่ยวจะมีราคาสูงกว่า เนื่องจากให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า จำนวนผู้อยู่อาศัยก็มีผล หากเนอสซิ่งโฮมขนาดเล็ก (50-100 คน) อาจราคาถูกกว่าเพราะต้นทุนต่ำ แต่หากเป็นขนาดใหญ่จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่า แลราคาสูงกว่า
โดยก่อนเลือก ควรเยี่ยมชมสถานที่เพื่อดูความสะอาด และ บรรยากาศ และ พิจารณาว่าผู้สูงอายุชอบแบบความเป็นส่วนตัว หรือ สังคมมากกว่ากัน - สัญญา และ นโยบายการชำระเงิน
สัญญาเป็นสิ่งสำคัญที่ควรอ่านให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ โดยส่วนใหญ่เป็นสัญญารายปี แต่บางแห่งมีสัญญาเดือนต่อเดือนเพื่อความยืดหยุ่น ซึ่งนโยบายการชำระเงินอาจรวมค่ามัดจำ และ ค่าปรับหากยกเลิกก่อนกำหนด ซึ่งอาจสูงถึง 50,000 บาท บางเนอสซิ่งโฮมจะเสนอส่วนลดสำหรับสัญญายาว หรือ ชำระล่วงหน้าได้
โดยก่อนเซ็นสัญญา ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบสัญญา และ หลีกเลี่ยงข้อที่ไม่เป็นธรรม เช่น การไม่คืนเงินหากยกเลิกกระทันหัน เป็นต้น - ค่าบริการเพิ่มเติม และ ประกันสุขภาพ
ค่าบริการเพิ่มเติม เช่น ค่ายา อาหารพิเศษ หรือ กิจกรรมต่างๆอาจต้องเพิ่มขึ้น ซึ่งหากมีประกันสุขภาพจะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ โดยเนอสซิ่งโฮมบางแห่งรับประกันจากภาครัฐ หรือ เอกชนเพื่อครอบคลุมค่าพยาบาล ก่อนตัดสินใจ ควรตรวจสอบว่าประกันครอบคลุมอะไรบ้างเพื่อลดภาระทางการเงินลง
จากที่กล่าวมาจะเห็นว่าค่าใช้จ่ายของเนอสซิ่งโฮมเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรศึกษาให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ เนื่องจากมีความแตกต่างตามทำเล สิ่งอำนวยความสะดวก และ ระดับการดูแลที่ผู้สูงอายุต้องการ ซึ่งครอบครัวควรพิจารณาทั้งงบประมาณ มาตรฐานการดูแล และ ความต้องการเฉพาะของผู้สูงวัย เพื่อให้มั่นใจว่าการเลือกเนอสซิ่งโฮมนั้นเหมาะสม ปลอดภัย และ คุ้มค่าที่สุด ดังนั้นหากกำลังมองหาเนอสซิ่งโฮม ที่มีบริการที่เหมาะสม และ คุ้มค่า เราขอแนะนำ Aplusnursinghome ซึ่งเป็นเนอสซิ่งโฮม ที่มีบริการครบครันทั้งด้านผู้ป่วยติดเตียง และ ผู้สูงอายุโดยเฉพาะ อีกทั้งผู้ป่วยจะได้รับการดูแลจากผู้มากประสบการณ์ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วย หรือ ผู้สูงอายุ เป็นอย่างดี มีกิจกรรมมากมาย มีอาหารผู้ป่วยติดเตียงที่เหมาะสม มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน เพื่อให้ผู้ป่วยติดเตียงนั้นได้พักฟื้นได้รับการดูแลทั้งด้านร่างกาย และ จิตใจให้เบิกบาน แล้วยังสามารถดูแลคนที่คุณรักด้วยมาตรฐาน ตลอด 24 ชม ทั้งยังมีบุคลากรบริการดูแลผู้ป่วย และ ผู้สูงอายุ โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ และ ทีมพยาบาลวิชาชีพ ให้ผู้เข้ารับบริการมีสุขภาพที่ดีทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และ สังคมอย่างแน่นอน
สนใจดูรายละเอียด และขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุ ติดต่อ เอพลัส เนอร์สซิ่งโฮม
โทร : 092-656-5650
Line : @aplusnursinghome
อีเมล : aplusnursinghome@gmail.com